ลงประกาศฟรี
ค้นหาประกาศ

ค่าเงินบาทวันนี้ 9/9/65 เปิดที่ระดับ 36.40 บาทต่อดอลลาร์ ทรงตัว

เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.40 บาทต่อดอลลาร์ หลังธนาคารกลางยุโรปขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% ตามคาด แนะจับตาวิกฤตพลังงานในยุโรปรวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจจีน

ค่าเงินบาทวันนี้

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทย ระบุ ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.40 บาทต่อดอลลาร์ ได้รับแรงหนุนจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ ECB ที่ได้หนุนให้เงินยูโร (EUR) สามารถทรงตัวเหนือระดับ 1.00 ดอลลาร์ต่อยูโรได้ ทว่า ท่าทีการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่ยังหนุนเงินดอลลาร์อยู่นั้นก็เป็นปัจจัยที่กดดันไม่ให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้มากในระยะสั้นนี้ นอกจากนี้มองว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอปัจจัยใหม่ๆ โดยเฉพาะรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า ทำให้เงินบาทอาจแกว่งตัว Sideways ในกรอบกว้างไปก่อน

ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามทิศทางฟันด์โฟลว์ หลังนักลงทุนต่างชาติยังเดินหน้าทยอยขายหุ้นไทยต่อเนื่อง (ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยกว่า -6.5 พันล้านบาท) และหากนักลงทุนต่างชาติยังไม่กลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยสุทธิ เงินบาทก็อาจแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องได้ยาก อย่างไรก็ดีมองว่า แรงขายหุ้นไทยจากนักลงทุนต่างชาติอาจเริ่มชะลอลงได้ หลังเงินบาทส่งสัญญาณกลับตัวเป็นฝั่งแข็งค่าที่ชัดเจนมากขึ้น (หลังจากที่มองว่าเงินบาทเกิดสัญญาณ RSI Bearish Divergence ในวันจันทร์ที่ผ่านมา) ทำให้เงินบาทอาจแกว่งตัวในกรอบ 36.20-36.70 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงสั้นนี้

อนึ่งในช่วงที่ตลาดการเงินผันผวนสูงจากความไม่แน่นอนของหลายปัจจัย อาทิ การขึ้นดอกเบี้ยของเฟด หรือ แนวโน้มเศรษฐกิจจีน ทำให้คงแนะนำให้ผู้ประกอบการควรใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ Options ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวนหนักมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.30-36.45 บาทต่อดอลลาร์

ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวผันผวน โดยในช่วงแรกผู้เล่นในตลาดยังคงเดินหน้าขายสินทรัพย์เสี่ยง หลังถ้อยแถลงของประธานเฟดล่าสุดได้เน้นย้ำ เฟดจะยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย จนกว่าจะควบคุมปัญหาเงินเฟ้อได้ นอกจากนี้ รายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ซึ่งลดลงสู่ระดับ 2.22 แสนราย ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้และสะท้อนภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง ก็ยิ่งหนุนให้ผู้เล่นในตลาดคาดว่า เฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ย +0.75% ในการประชุมเดือนกันยายน (CME FedWatch Tool ระบุโอกาสกว่า 86% ที่เฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ย สูงขึ้นจาก 77% ในวันก่อนหน้า) อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็พลิกกลับมาปรับตัวดีขึ้นและปิดตลาดในโซนบวกได้ โดยดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.66% หนุนโดยแรงซื้อหุ้นกลุ่มการเงิน (Bank of America +3.2%, JP Morgan +2.3%) ที่น่าจะได้รับอานิสงส์จากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ขณะเดียวกัน ผู้เล่นในตลาดต่างเข้าซื้อหุ้นในกลุ่ม Defensive อาทิ กลุ่มการแพทย์และกลุ่มสาธารณูปโภค ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัว หากเฟดเดินหน้าเร่งขึ้นดอกเบี้ย