นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เชื่อว่าผู้ประกอบการทุกรายมีความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลกถดถอย ในปี 2566 เช่นเดียวกับบริษัท แต่ในส่วนของภาคธุกิจท่องเที่ยวของไทยในขณะนี้เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ประกอบกับจีนที่ยังคงปิดประเทศ จากโควิด-19 ทำให้มีความต้องการซื้อสะสมอยู่มาก
ส่วนของไทยเอง ถือเป็นประเทศที่ปลอดภัยจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ ทำให้เสมือนเป็นบ้านหลังที่ 2 ของประเทศในภูมิภาคเอเชีย ไม่ว่าจีน หรือรวมถึงประเทศรัสเซีย ที่ขณะนี้พบว่ามีการเข้ามาซื้อวิลล่าที่ภูเก็ตจำนวนมาก
อีกทั้งรัฐบาลไทยเริ่มพิจารณาโครงการผู้พำนักระยะยาวของประเทศไทย หรือ Long-Term Resident Visa: LTR Visa 10 ปี สำหรับต่างชาติที่มีศักยภาพ ซึ่งจะเป็นผลดีกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับบน และจะมีผลต่อทิศทางการพัฒนาที่ดินของบริษัทในปีหน้าด้วย โดยนอกจากจะมีการเปิดตัวบ้านระดับลักชัวรี่แล้ว ยังมีแผนจะนำที่ดิน 600 ไร่ จ.ภูเก็ต มาพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส ที่จะมีทั้งโรงเรียนนานาชาติ โรงแรม และที่อยู่อาศัย เป็นต้น
“พบว่าต่างชาติที่มีความมั่งคั่งก็ยังมีการจับจ่ายหรือลงทุน โดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งรัฐบาลไม่สนับสนุนให้มีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ แม้แต่การปิดกั้นสื่อสังคมออนไลน์ที่เป็นภาษาอังกฤษ ทำให้คนจีนจำนวนมากมองหาบ้านหลังที่สอง เพื่อส่งลูกหลานเข้ามาเรียนโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมาย หรือแม้แต่คนสูงอายุในจีนก็ต้องการมาใช้ชีวิตวัยเกษียณที่ไทยจำนวนมาก ซึ่งประเด็นนี้ทำให้มองว่ารัฐบาลไทยควรมีการทบทวน LTR Visa 10 ปี เพราะมองว่าไม่สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ ซึ่งบริษัทได้ให้ข้อเสนอแนะกับทาง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ไปแล้ว นอกจากนี้ ไทยต้องเตรียมบุคคลากรที่มีความสามารถในการให้บริการด้านสุขภาพให้เพียงพอกับความต้องการด้วยเช่นกัน”
ขณะที่นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดาฯ กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และยอดเปิดตัวโครงการใหม่ของอนันดาฯ ก็มีการฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้ช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทจะเปิด 6 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 21,627 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการโคโค่ พาร์ค เป็นคอนโดมิเนียม 37 ชั้น ที่มีบริการจากโรงแรมดุสิตธานี ห้องชุดรวม 444 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมจะเปิดขายในเดือนต.ค.นี้
ส่วนโครงการคัลเจอร์ เป็นคอนโดมิเนียม 2 ทำเล ประกอบด้วยคัลเจอร์ ทองหล่อ 36 ชั้น 493 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเดียมไฮบริด และ ดูเพล็กซ์ ราคาเริ่มต้น 159,000 บาท/ตร.ม. หรือยูนิตเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท ผ่อน 9,900 บาท/เดือน
และ คัลเจอร์ จุฬา-สีลม 32 ชั้น 1,400 ยูนิต เป็นห้องชุดแบบไฮบริดทุกยูนิต ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท
โครงการไอดีโอ รามคำแหง ลำสาลี คอนโดมิเนียม ทำเลรถไฟฟ้า 3 สาย ส้ม เหลือง น้ำตาล ฟิตเนส 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 70,000 บาท/ตร.ม. ยูนิตเริ่มต้นที่ 1.69 ล้านบาท
ส่วนอีก 2 โครงการแนวราบ ประกอบด้วย อันดา ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ เป็นแบรนด์บ้านในราคาที่เป็นเจ้าของง่าย เป็นบ้านแฝด ทาวน์โฮม สไตล์สแกนดิเนเวียน ราคาเริ่มต้น 2.39-6 ล้านบาท โดยจะเปิดให้ชมบ้านตัวอย่างในเดือนพ.ย.นี้
และโครงการอาร์เทล อโศก-พระราม 9 เป็นลักชัวรี พูล วิลล่า ราคาเริ่มต้น 35-60 ล้านบาท โดยทั้ง 6 โครงการรวมถึงโครงการพร้อมเข้าอยู่ทั่วกรุงเทพฯ จะนำไปเปิดการขายในงานANANDA URBAN PULSE 2022” ระหว่างวันที่ 27-30 ต.ค. นี้ที่ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
“ปัจจุบันบริษัทมีสินค้ารอการขายรวมกว่า 5 หมื่นล้านบาท ขณะที่สถานการณ์ที่ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นทั้งยอดขาย ยอดโอน และความสามารถในการทำกำไร ทำให้มั่นใจว่ายอดขายของปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่ 15,680 ล้านบาท และยอดโอนที่ 13,033 ล้านบาท”
