จากคอนเซปท์ไบค์ที่ถูกนำมาจัดแสดงในงาน EICMA ปี 2016 จนกระทั่งถูกนำมาขายจริงในปี 2017 Honda X-ADV 750 คือสองล้อที่ฉีดอะดรีนาลีนโดสใหญ่ให้วงการรถ AT ได้ตื่นตัว ด้วยรูปทรงแบบแอดเวนเจอร์ ครอสโอเวอร์ เครื่องยนต์ขนาด 745 ซีซี ที่จับคู่มากับระบบเกียร์ออโตเมติก DCT แต่มาพร้อมท่านั่งขับขี่สบาย ๆ สไตล์รถสกู๊ตเตอร์ ขึ้น-ลงสะดวก ไม่ว่าจะก้าวขาข้ามหรือก้าวผ่านช่องว่างเบาะก็ได้ทั้งสอง เท้าวางอยู่บนพื้นคอนโซนหน้าเหยียบเต็มเท้า และถูกสร้างมาให้สามารถขับขี่ทั้งบนถนนดำและทางฝุ่นได้จริง ไม่ได้เป็นแค่กิมมิค เพราะให้ล้อซี่ลวด ยางดูอัล และระบบกันสะเทือนที่พร้อมรองรับการใช้งานแบบสมบุกสมบันมาด้วย
แน่นอนว่าฮอนด้าคือเจ้าแรกที่เปิดตลาด เพราะยังไม่เคยมีใครทำรถสไตล์นี้ออกมาก่อน หลายคนจึงสงสัย และเกิดคำถามว่ามันจะขี่ดีไหม วิ่งบนทางฝุ่นได้ตามที่เคลมมารึเปล่า ซึ่งผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น และมีโอกาสได้นำ X-ADV 750 ตัวแรกไปลองวิ่งทั้งบนถนนดำ ทางฝุ่น และในสนาม ก่อนจะได้ข้อสรุปว่า “เฮ้ย มันเวิรค์” รถมีอัตราเร่งและกำลังดี ระบบเกียร์ DCT คลัตช์คู่ฉลาด เปลี่ยนเกียร์ได้ต่อเนื่อง ไม่อม ไม่สะดุด ไม่ว่าจะจั๊มเนินบนทางฝุ่น หรือแบนจนเข่าเช็ดพื้นในสนาม X-ADV ก็สามารถ ตอนนั้นเลยรู้สึกทึ่งกับสมรรถนะของมันมาก
จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ล่วงเลยมาเกือบ 5 ปีแล้ว X-ADV 750 เองก็ได้ถูกพัฒนาให้ขี่ดีและตอบสนองกลมกล่อมยิ่งขึ้นมาโดยตลอด จนกระทั่งมาถึงโมเดลปี 2022 รุ่นนี้ที่เปิดตัวมาภายใต้แนวคิด “Let Your Instinct Lead The Way” สู่การเป็น Adventure Urban Vehicle อย่างสมบูรณ์แบบ โดยได้รับการปรับปรุงทั้งในส่วนของเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็น พอร์ทไอดี-ไอเสีย ไทม์มิ่งแคม ระบบคลัตช์ อัตราทดเกียร์ ลดน้ำหนักตัวเครื่องลง ตลอดจนเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานที่ให้ความอเนกประสงค์ พร้อมกับการยกระดับเทคโนโลยีติดรถ ในราคาวางจำหน่าย 425,000 บาท
ไหน ๆ ก็มีโอกาสได้กลับมาเจอกันหลังจากหลายปี สำหรับการทดสอบในครั้งนี้ผมเลยขอใช้ สัญชาติญาณ + พี่ ๆ น้อง ๆ ในการ Lead The Way นำทางตามคอนเซปท์ของรถเขาซักหน่อย เพราะสุดถนนดำแล้วเราไม่ได้ลงไปลุยทางดินธรรมดา แต่จะไปลุยเหมือง!! สมรรถนะของ Honda X-ADV 750 รุ่นปี 2022 จะเป็นยังไง รถดูหล่อขึ้น คมขึ้น แต่จะขี่ดีขึ้นขนาดไหน? ก่อนจะไปลองของเราไปดูรายละเอียดของตัวรถกันซักเล็กน้อย
หัวใจสำคัญที่ส่งพลังขับเคลื่อนของ Honda X-ADV 750 คือเครื่องยนต์ 2 สูบ Parallel twin 745 ซีซี 4 วาล์ว/สูบ SOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ วางนอน 55° จุดระเบิด 270° ขนาดกระบอกสูบและช่วงชัก 77 x 80 มม. กำลังอัดสูงสุด 10.7:1 ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 5 ให้แรงม้าสูงสุด 57.8 แรงม้า ที่ 6,750 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 69 นิวตันเมตร ที่ 4,750 รอบ/นาที จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด PGM-Fi ที่ถูกปรับใหม่จาก 12 รูเป็น 14 รู ตัวเครื่องน้ำหนักเบาลง 1.4 กก. จับคู่มากับระบบเกียร์ออโตเมติก DCT 6 สปีดและระบบขับเคลื่อน Final-Drive ที่ใช้เป็นโซ่
เฟรม Tubular steel diamond น้ำหนักเบาช่วยกระจายแรงกระแทก เซฟน้ำหนักลง 1 กก. และเปิดช่องให้เพิ่มขนาด U-Box ใต้เบาะ ระบบกันสะเทือนโช้คหน้าหัวกลับแบบ Cartridge ขนาดแกน 41 มม. ปรับพรีโหลดสปริงกับรีบาวน์ได้ โช้คหลังเดี่ยว Pro-link ยางหน้า 120/70-17 ยางหลัง 160/60-15 เบรกหน้าคู่ ABS จานดิสค์เบรกขนาด 296 มม. คาลิปเปอร์ 4 ลูกสูบ เบรกหลังดิสก์เดี่ยว ABS ขนาดจาน 240 มม. ระยะฐานล้อ 1590 มม. ความสูงเบาะ 790มม. น้ำหนักรวม 235 กก.